บรรยากาศในทำเนียบขาว เดือนเมษายน 2025
ในเดือนเมษายน 2025 นี้ ถ้าเราเงี่ยหูฟังดี ๆ ก็จะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเร็ว ๆ ของชายที่ชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ภายในทำเนียบขาว ชายคนนี้กำลังหาทางกดดันคู่ค้าทั่วโลก ด้วยการใช้ ภาษีศุลกากร เป็นอาวุธหลักในการเจรจา
สหรัฐฯ ในวันนี้จึงเร่งเร้า บีบคั้น หวังว่าจะบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ยอมลงนามในข้อตกลงการค้าใหม่ให้ได้เร็วที่สุด
แต่ ญี่ปุ่น นั้นแตกต่างจากหลายประเทศที่ทรัมป์เคยเจรจาด้วย
กรุงโตเกียวในเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการวางแผนอย่างรัดกุม ไม่ใช่เพียงในห้องเจรจา หากแต่ลึกลงไปถึงทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ญี่ปุ่นรู้ดีว่า:
“การตอบโต้ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ แต่เป็นเกมที่ต้องวางหมากกันเป็นปี ๆ”
การไม่เล่นตามเกมของสหรัฐฯ
แม้จะโดนขึ้น ภาษีรถยนต์ญี่ปุ่น 25% แม้จะถูกขู่ในรูปแบบต่าง ๆ
แต่ญี่ปุ่นเลือกที่จะนิ่ง รอ และเฝ้าดูไพ่ในมือของสหรัฐฯ แทนที่จะรีบโต้กลับ
ไพ่ในมือญี่ปุ่น ที่สหรัฐฯ มองข้ามไม่ได้
ความสัมพันธ์กับจีนและอาเซียน
ญี่ปุ่น ไม่ได้พึ่งพาสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว
แต่ยังเป็นพันธมิตรทางการค้าที่แข็งแกร่งของทั้ง จีน และ อาเซียน (ASEAN)
ขณะที่สหรัฐฯ กำลังถูกประเทศต่าง ๆ รวมตัวตั้งกำแพงเพื่อตอบโต้ สงครามการค้าทรัมป์ อย่างเงียบ ๆ
โลกการค้า ไม่ใช่สนามมวย
สงครามการค้า ไม่ใช่การชกกันให้แรงกว่าแล้วชนะ
แต่มันคือเกมของ “การอ่านเกม” และ “การวางหมาก”
ญี่ปุ่น — ชาติแห่งนักเจรจาระดับโลก รู้ดีว่า
“ชัยชนะที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การได้อะไรมาเร็ว ๆ แต่อยู่ที่การได้ในสิ่งที่คุ้มค่า เมื่อเวลาสุกงอม”
บทสรุป: เกมนี้ ญี่ปุ่นคือผู้ที่ได้เปรียบ
ในสงครามการค้าระหว่าง ญี่ปุ่น กับ สหรัฐฯ
ญี่ปุ่นได้เปรียบ เพราะ:
- อดทนมากกว่า
- รอบคอบกว่า
- วางแผนระยะยาวได้แนบเนียนกว่า
ขณะที่สหรัฐฯ เดินเร่งรีบ ญี่ปุ่นเลือกเดินอย่างมั่นคงบนเส้นทางที่ไกลกว่าและยั่งยืนกว่า
และสุดท้าย ใครกันแน่…ที่จะยิ้มในวันสุดท้ายของเกมนี้?