3 กลยุทธ์การลงทุนสไตล์ญี่ปุ่น ที่คนไทยทำตามได้ กำไรดี ความเสี่ยงต่ำ

เรียนรู้กลยุทธ์ลงทุนสไตล์ญี่ปุ่น ลงทุนทั่วโลกแบบออมรายเดือน กระจายความเสี่ยงอย่างสมดุล เหมาะกับคนไทยที่ต้องการกำไรมั่นคง

ทำไมคนญี่ปุ่นถึงลงทุนได้ “มั่นคง” แม้เงินเดือนพอใช้?

เพราะเขา ไม่หวังรวยเร็ว แต่เชื่อใน “พลังของความต่อเนื่อง”
ใครที่เคยใช้บริการประมูลสินค้ามือสองจากญี่ปุ่น คงพอเห็นภาพ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่เน้นความฟู่ฟ่า แต่เน้น “คุณค่าในระยะยาว”
ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมหรูที่เก็บรักษาอย่างดี หรือแผนการเงินที่ถูกวางไว้อย่างรอบคอบ

กลยุทธ์ที่ 1: ลงทุนในกองทุนดัชนีทั่วโลกแบบรายเดือน (Dollar-Cost Averaging)

คนญี่ปุ่นนิยมลงทุนในกองทุนรวมที่ติดตาม ดัชนีหุ้นทั่วโลก เช่น MSCI ACWI
วิธีของเขาไม่ซับซ้อนครับ…แค่ซื้อ “เท่าเดิมทุกเดือน” ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
เรียกว่าเป็นการใช้ ต้นทุนเฉลี่ย ในการซื้อสะสมระยะยาว

ตัวอย่างกองทุนยอดนิยมของญี่ปุ่น เช่น eMAXIS Slim 全世界株式 (オルカン)
คนญี่ปุ่นถือยาวเป็น 10 ปีผ่านบัญชี NISA ที่ปลอดภาษี
และที่สำคัญ — พวกเขาไม่เคยหยุดซื้อเลยครับ แม้ตลาดจะผันผวน

จุดแข็ง:

  • ลงทุนง่าย เหมาะกับมือใหม่
  • ความเสี่ยงต่ำเมื่อถือยาว
  • ได้ผลตอบแทนจากเศรษฐกิจโลก

เหมาะกับคนที่:

  • มีรายได้ประจำ
  • อยากเริ่มออมเงินจากการขายหรือประมูลสินค้า
  • ต้องการวางแผนอนาคตแบบไม่เครียด

กลยุทธ์ที่ 2: ลงทุนแบบพอร์ตสมดุล (Balanced Portfolio)

ถ้าเปรียบพอร์ตลงทุนเหมือนทีมฟุตบอล
หุ้นคือตัวรุกที่ทำประตู ส่วนพันธบัตรคือตัวรับที่คอยป้องกันความเสี่ยง
ญี่ปุ่นจึงนิยมผสมทั้ง 2 เข้าด้วยกัน

พอร์ตที่ดี…ไม่จำเป็นต้อง “ยิงประตูได้เยอะ”
แต่อย่าให้เสียประตูจนแพ้

กองทุนสมดุล เช่น 60/40 (หุ้น 60% พันธบัตร 40%) ช่วยให้ผู้ลงทุน

  • ได้รับผลตอบแทนที่เสถียร
  • ลดแรงกระแทกเมื่อเกิดวิกฤต
  • เหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายระยะยาว เช่น เปิดร้านสินค้ารีเซลจากญี่ปุ่น, เกษียณ, ส่งลูกเรียน ฯลฯ

กลยุทธ์ที่ 3: ลงทุนเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่อโชว์พอร์ตวันนี้

ญี่ปุ่นมีระบบ NISA ซึ่งช่วยให้ลงทุนแบบ “ปลอดภาษี”
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ…ทัศนคติของคนที่ใช้ระบบนี้

พวกเขาไม่ได้ลงทุนเพื่อโชว์ในโซเชียล
แต่ลงทุนเพื่อลดภาระลูกหลานในอนาคต

นี่คือความคิดแบบ “รุ่นพ่อสร้างเถ้าแก่ รุ่นลูกเป็นอิสระ”
และเป็นสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ไทยควรเรียนรู้

บทสรุปจากญี่ปุ่น: ค่อย ๆ รวย แบบมีวินัย

คนญี่ปุ่นไม่เคยรีบ
แต่เขา “ไม่เคยหยุด” เดินหน้าวางแผนชีวิตเลยสักวัน
ทุกการซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Louis Vuitton มือสองผ่านเว็บประมูล
หรือการซื้อกองทุน 5,000 เยนต่อเดือน
ทุกอย่าง…เขาวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว

ถ้าคุณเองก็ซื้อของจากญี่ปุ่น
ถ้าคุณเองก็หลงรักวิถีมินิมอลของชาวอาทิตย์อุทัย
ก็ลองเริ่มลงทุนแบบญี่ปุ่นดูสักครั้งครับ

ลงทุนทีละนิด
แบบไม่ต้องรอให้รวยก่อน
แล้ววันหนึ่ง คุณจะรู้ว่า
“ความมั่นคงนั้นสร้างได้ จากพฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่ถูกต้อง”


สนใจประมูลสินค้ามือสองจากญี่ปุ่น?

เว็บไซต์ของเราพร้อมให้คุณเริ่ม “ลงทุนในของที่มีคุณค่า” เช่นเดียวกับการลงทุนในอนาคต
เริ่มต้นง่าย ๆ ที่นี่ →

D-TARO